ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า การทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือการพักผ่อนให้เพียงพอ สามารถช่วยให้ร่างกายของเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งมีผลในการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีขึ้นได้
แน่นอนว่าการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้น จะมีภูมิต้านทานในร่างกายที่ดีขึ้น ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ยิ่งเป็นช่วงอากาศมีการแปรปรวนบ่อยๆ ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา ดังนั้นการมีสุขภาพที่ดีนั้นจะเป็นส่วนช่วยให้เราปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ ได้
การออกกำลังกาย จะมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน และ การวิ่ง เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ดีที่สุดอีกชนิดหนึ่ง ที่มีผลออกมาได้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาคือ ในบ้างวันเราก็ไม่สามารถออกไปวิ่งในสถานที่สาธารณะได้ด้วยเหตุผลต่างๆ และนั้นจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะลู่วิ่ง สามารถวิ่งเวลาไหนก็ได้
สำหรับที่ต้องการซื้อลู่วิ่งสักเครื่องเพื่อใช้วิ่งที่บ้าน และยังสับสนอยู่ว่าจะเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี เลือกให้ถูกใจคุณ มีวิธีเลือกอะไรบ้างนั้น มาดูกันครับ
แต่ในบางครั้ง การวิ่ง ก็ทำให้หลายคนมีอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศบางวันก็ร้อน บางวันก็ฝนตก และสถานที่วิ่งอยู่ไกลบ้าง และเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถออกวิ่งได้
ดังนั้น ลู่วิ่งไฟฟ้า จึงส่วนช่วยให้เราออกกายได้อย่างต่อเนื่องได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม และไม่มีปัญหาไหนที่จะมาเป็นอุปสรรคสำหรับคุณได้ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องสภาพอากาศ และเรื่องอื่นๆ อีกต่อไป ด้วยที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย และมีลูกเล่นต่างๆ ที่เป็นส่วนช่วยให้สุขภาพที่ดีได้ โดยจะให้ความรู้สึกเหมือนเราได้วิ่งบนทางวิ่งจริงๆ เลยล่ะครับ
สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าใช้ในบ้านเราสามารถเลือกความแรงของมอเตอร์ตั้งแต่ 1 – 3 แรงม้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว ส่วนลู่วิ่งไฟฟ้าใช้งานในศูนย์ฟิตเนส ต้องมีความแรงของมอเตอร์ตั้งแต่ 3 แรงม้าขึ้นไป เพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้ นอกจากนี้เราสามารถเลือกความแรงของมอเตอร์ตามความเหมาะสมได้ มีดังต่อไปนี้
ลู่วิ่งในแต่ละรุ่นจะมี ระบบลดแรงกระแทก ที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่คุณสมบัติของแต่ละรุ่น และเราสามารถสังเกตุด้วยตาเปล่าได้เลยครับ ซึ่งมันจะอยู่ใต้กระดานวิ่ง ระบบนี้จะมี 2 จุด Soft-Run™ กับ 3 สามจุด Air-Cushion ระบบสองชนิดนี้ให้ความรู้สึกเวลาวิ่งที่แตกต่างกันครับ
ความกว้าง จะให้ความอิสระในการวิ่ง ยิ่งมีพื้นที่มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เรามีความอิสระในการวิ่งมากขึ้นเท่านั้น เราสามารถเลือกลู่วิ่งที่มีความกว้างไม่ต่ำกว่า 40 cm
ความยาว จะเป็นส่วนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยาวของช่วงขา หรือความสูงของคนวิ่ง ยิ่งเรามีความสูง ความยาวของลู่วิ่งจะมีความสำคัญ เราต้องหาลู่วิ่งที่สามารถรองรับช่วงขาของเราได้ โดยเปรียบเทียบความยาวที่เหมาะสมกับความสูงของแต่ละคน

การบริการหลังการขายสามารถแบ่งเป็นสองช่วง ก็คือ ช่วงเวลารับประกัน และหลังหมดระยะเวลารับประกัน ส่วนใหญ่มักจะไม่มีใครจะถามกัน ดังนั้นหลังที่เราทำซื้อขายให้สอบถามเงื่อนไขการบริการการซื้อขายให้ชัดเจน เพื่อที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด
หวังว่าเนื้อหาที่ผมได้เตรียมไว้นี้จะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าที่มีความต้องหา ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อดีๆ มาใช้งาน สุดท้ายนี้ ลูกค้าท่านใดที่ยังสงสัยเรื่องเครื่องออกกำลัง สามารถสอบถามมาได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษา
แน่นอนว่าการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้น จะมีภูมิต้านทานในร่างกายที่ดีขึ้น ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ยิ่งเป็นช่วงอากาศมีการแปรปรวนบ่อยๆ ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา ดังนั้นการมีสุขภาพที่ดีนั้นจะเป็นส่วนช่วยให้เราปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ ได้
การออกกำลังกาย จะมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน และ การวิ่ง เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ดีที่สุดอีกชนิดหนึ่ง ที่มีผลออกมาได้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาคือ ในบ้างวันเราก็ไม่สามารถออกไปวิ่งในสถานที่สาธารณะได้ด้วยเหตุผลต่างๆ และนั้นจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะลู่วิ่ง สามารถวิ่งเวลาไหนก็ได้
สำหรับที่ต้องการซื้อลู่วิ่งสักเครื่องเพื่อใช้วิ่งที่บ้าน และยังสับสนอยู่ว่าจะเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี เลือกให้ถูกใจคุณ มีวิธีเลือกอะไรบ้างนั้น มาดูกันครับ
ควรเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ปี 2020 ที่มีคุณภาพ และถูกใจคุณ
ลู่วิ่งไฟฟ้า
การวิ่งเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ง่ายไม่ต้องมีเทรนเนอร์มาสอน เราก็สามารถวิ่งอย่างถูกวิธีได้ และยังได้ผลที่ดีอีกด้วย เพราะการวิ่ง เป็นการออกกำลังที่ใช้ทุกส่วนของร่างกายเรา เป็นวิธีที่ได้ผลจริงสำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก แค่วิ่งอย่างสม่ำเสมอ จะเห็นผลได้อย่างแน่นอนแต่ในบางครั้ง การวิ่ง ก็ทำให้หลายคนมีอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศบางวันก็ร้อน บางวันก็ฝนตก และสถานที่วิ่งอยู่ไกลบ้าง และเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถออกวิ่งได้

ดังนั้น ลู่วิ่งไฟฟ้า จึงส่วนช่วยให้เราออกกายได้อย่างต่อเนื่องได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม และไม่มีปัญหาไหนที่จะมาเป็นอุปสรรคสำหรับคุณได้ โดยที่เราไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องสภาพอากาศ และเรื่องอื่นๆ อีกต่อไป ด้วยที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย และมีลูกเล่นต่างๆ ที่เป็นส่วนช่วยให้สุขภาพที่ดีได้ โดยจะให้ความรู้สึกเหมือนเราได้วิ่งบนทางวิ่งจริงๆ เลยล่ะครับ
สาระน่ารู้
” เป็นวิธีที่ดี หากเริ่มต้นการออกกำลังกาย โดยการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ได้ผลดีมาก เพราะใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย “
1. ความแรงของมอเตอร์แและการรับน้ำหนัก
มอเตอร์จะเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของลู่วิ่ง และเป็นส่วนที่เราต้องสังเกตุมอเตอร์ด้วย ด้วยความแรงของมอเตอร์แต่ล่ะชนิดมีความแรงที่ต่างกัน รวมถึงมีความเกี่ยวข้องกับการรับน้ำหนักด้วย ซึ่งมีหน่วยวัดพลังเป็นหน่วย “แรงม้า หรือ HP”สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าใช้ในบ้านเราสามารถเลือกความแรงของมอเตอร์ตั้งแต่ 1 – 3 แรงม้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว ส่วนลู่วิ่งไฟฟ้าใช้งานในศูนย์ฟิตเนส ต้องมีความแรงของมอเตอร์ตั้งแต่ 3 แรงม้าขึ้นไป เพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้ นอกจากนี้เราสามารถเลือกความแรงของมอเตอร์ตามความเหมาะสมได้ มีดังต่อไปนี้
- ความแรงมอเตอร์ 1 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักตั้ง 45 – 55 กิโลกรัม
- ความแรงมอเตอร์ 1.5 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักตั้ง 55 – 65 กิโลกรัม
- ความแรงมอเตอร์ 2 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักตั้ง 65 – 80 กิโลกรัม
- ความแรงมอเตอร์ 2.5 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักตั้ง 70 – 90 กิโลกรัม
- ความแรงมอเตอร์ 3 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักตั้ง 100 กิโลกรัมขึ้นไป
2. ระบบลดแรงกระแทก
ลู่วิ่ง ที่ดีนั้นสามารถให้ความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน และสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย เคยสังเกตุไหมว่า เวลาที่เราวิ่งอยู่ดีๆ แล้วเกิดอาการปวดบริเวณส่วนขา และส่วนหลังของเรา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะคิดว่า วิ่งไม่ถูกวิธีบ้าง หรือร่างกายไม่พร้อมบ้าง ผลเหล่านี้มีผลก็จริง แต่ลู่วิ่งที่ดีสามารถลดแรงกระแทกต่อผู้ใช้งานได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้น้อยลงลู่วิ่งในแต่ละรุ่นจะมี ระบบลดแรงกระแทก ที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่คุณสมบัติของแต่ละรุ่น และเราสามารถสังเกตุด้วยตาเปล่าได้เลยครับ ซึ่งมันจะอยู่ใต้กระดานวิ่ง ระบบนี้จะมี 2 จุด Soft-Run™ กับ 3 สามจุด Air-Cushion ระบบสองชนิดนี้ให้ความรู้สึกเวลาวิ่งที่แตกต่างกันครับ
3. ขนาดพื้นที่ของลู่วิ่ง
เป็นส่วนที่เราต้องให้ความสนใจเวลาเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าให้เหมาะกับตัวเรา ลู่วิ่งของแต่ละรุ่นจะมีขนาดไม่เท่ากัน สามารถวัดค่าด้วยเซนติเมตร และจะมีความยาว กับความกว้างที่ต่างกัน ซึ่งเราต้องแยกแยะให้ได้ก่อนว่า ความกว้าง กับความยาวให้ประโยชน์เวลาได้อย่างไรความกว้าง จะให้ความอิสระในการวิ่ง ยิ่งมีพื้นที่มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เรามีความอิสระในการวิ่งมากขึ้นเท่านั้น เราสามารถเลือกลู่วิ่งที่มีความกว้างไม่ต่ำกว่า 40 cm
ความยาว จะเป็นส่วนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยาวของช่วงขา หรือความสูงของคนวิ่ง ยิ่งเรามีความสูง ความยาวของลู่วิ่งจะมีความสำคัญ เราต้องหาลู่วิ่งที่สามารถรองรับช่วงขาของเราได้ โดยเปรียบเทียบความยาวที่เหมาะสมกับความสูงของแต่ละคน

4. ความเร็วของลู่วิ่ง
ด้วยความชอบของแต่ละคนมีความชอบที่ต่างกัน ยิ่งเราสามารถปรับระดับความเร็วได้หลากหลาย ก็ยิ่งเหมาะกับผู้ใช้งานได้มากขึ้น แต่หากเราที่จะเลือกซื้อใช้งานเอง ก็ควรเลือกตามความเหมาะสมกับเราด้วย โดยส่วนหากใช้งานที่บ้าน จะมีความเร็วสูงสุดตั้งแต่ 14 – 22 กิโลเมตร/ชั่วโมง การเปรียยเทียบเรื่องของความเร็วจะเป็นตัวช่วยให้เราเลือกตรงความต้องการของเราได้ง่ายขึ้น มีดังต่อไปนี้- ความเร็วตั้งแต่ 0 – 5 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะอยู่ในช่วงการเดิน
- ความเร็วตั้งแต่ 6 – 10 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะอยู่ในช่วงจ็อกกิ้ง
- ความเร็วตั้งแต่ 11 – 15 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะอยู่ในช่วงวิ่งเร็ว
- ความเร็วตั้งแต่ 16 – 20 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะอยู่ในช่วงการสปรินท์
5. ความชันปรับได้
ส่วนใหญ่การปรับโดยจะนับเป็น ระดับ หรือ % สูงขึ้นมาจากพื้น เทียบกับการวิ่งออกกำลังกายขึ้นเขาที่มีความชันอยู่ที่ 12 – 15% จากพื้น ยิ่งมีความชันมากเท่าไร ก็ยิ่งเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น สามารถเขามาช่วยในการออกกำลังด้วยการวิ่งเป็นอย่างดีเลยครับ- ระบบความชันสามารถปรับได้ 2 แบบคือ
- ปรับด้วยไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ การกดปุ่ม
- ใช้มือปรับด้วยตัวเอง จะถอด หรือใส่
6. หน้าจอควบคุม
เป็นหน้าจอที่มีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ค่อยอำนวยความสะดวกเวลาใช้งาน ลู่วิ่งของแต่ล่ะรุ่นจะมีฟันก์ชั่นมีความแตกต่างไปบ้าง ขึ้นอยู่กับความพิเศษของรุ่นนั้นๆ แต่ฟังก์ชั่นหลักที่ควรมี 6 อย่าง คือ ค่าความเร็ว ค่าความชัน แสดงแคลอรี่ที่เผาผลาญไป ระยะทางที่วิ่ง แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ ระยะเวลาในการวิ่ง เป็นต้น ฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะใช้งานได้สะดวกแล้ว หากเป็นรุ่นพิเศษก็จะมีฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ อีก
7. เลือกยี่ห้อไหนดี
เป็นคำถามที่มีคนอยากจะรู้กันมากมายเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เพราะแบรนด์ของลู่วิ่งไฟฟ้ามีมากมาย หลากหลายเจ้าเลย ซึ่งทำให้คนส่วนมากตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกเป็นยี่ห้อไหนดี มันไม่ง่ายเลยใช่ไหมครับ แต่จะมีสิ่งที่เป็นหลักประกันถึงความน่าเชื่อถือได้ โดยที่เราสามารถพิจารณาดังต่อไปนี้- แบรนด์ หรือยี่ห้อที่มีมารตรฐานการผลิด โดยมีการรองรับจาก Certicate
- แบรนด์ หรือยี่ห้อต่างๆ ต้องมีใบรับประกันสินค้าระบุไว้ชัดเจน
- การเลือกร้านค้าก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราได้สินค้าที่น่าเชื่อถือได้ เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ที่มีคุณภาพ และทางร้านมีการจดทะเบียนร้านค้าอย่างชัดเจน
8. บริการหลังการขาย
เป็นส่วนที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากที่เลือกสินค้าที่โดนใจเราแล้ว ต่อไปก็จะเป็นส่วนการบริการหลังการขายมีความน่าสนใจมากแค่ไหน หากมีบริการดีๆ จะเป็นผลดีกับเราได้มากอย่างแน่นอนการบริการหลังการขายสามารถแบ่งเป็นสองช่วง ก็คือ ช่วงเวลารับประกัน และหลังหมดระยะเวลารับประกัน ส่วนใหญ่มักจะไม่มีใครจะถามกัน ดังนั้นหลังที่เราทำซื้อขายให้สอบถามเงื่อนไขการบริการการซื้อขายให้ชัดเจน เพื่อที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด
สรุป
ไม่ว่าใครก็อยากได้ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อดีๆ มาใช้งานกันทั้งนั้น จากที่ได้อ่านมามีความรู้อย่างไรกันบ้างครับ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมครับ การที่จะได้เครื่องออกกำลังที่มีคุณภาพมาใช้งาน แต่วิธีเลือกต่างๆ ที่ผมได้ยกตัวอย่างมา ไม่ได้เป็นวิธียุ่งยากมากมายเลย ลูกค้าสามารถสังเกตุเห็นได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หรือใช้วิธีสอบถามพนักงานขาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ควรเลือกที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด จะเป็นประโยชน์กับเรามากอย่างแน่นอนครับหวังว่าเนื้อหาที่ผมได้เตรียมไว้นี้จะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าที่มีความต้องหา ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อดีๆ มาใช้งาน สุดท้ายนี้ ลูกค้าท่านใดที่ยังสงสัยเรื่องเครื่องออกกำลัง สามารถสอบถามมาได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษา
บทความที่เกี่ยวข้อง
” ผมมีบทความเกี่ยวกับ ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี อยากให้ลองอ่านดู จะช่วยให้คุณเลือก ลู่วิงยี่ห้อดีๆ ได้แน่นอน อาทิเช่น ยี่ห้อไหน เราสามารถเชื่อถือได้บ้าง ลู่วิ่งคุณภาพ ต้องดูจากอะไรบ้าง เป็นต้น “